แนวโน้มเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอนาคต💓


เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในอนาคต
การดำเนินชีวิตของมนุษย์เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งนั้น
เทคโนโลยีในปัจจุบันได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการพัฒนาศักยภาพ
ประสิทธิภาพความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากเลยทีเดียว
โดยเฉพาะในปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช่ในองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมากขึ้น
ทั้งนี้เพราะการเติบโตของเทคโนโลยีและการแข่งขันกันสูง
จึงทำให้ในองค์กรต่างๆต้องมีการพัฒนาองค์กรให้เป็นในแบบดิจิตอล
หรืออิเลกทรอนิกยิ่งขึ้น
เพราะการนำเทคโนโลยีมาใช้ปฏิบัติงานภารกิจต่างๆในองค์กรนั้นสามารถสร้างศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยี
เพราะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรสามารถทำให้การทำงาน
การประมวลผลข้อมูลมีความถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดั่ง เช่น เอชพี
แสกนเจช ที่สามารถแปลเอกสารเป็นดิจิตอลไฟล์ได้
นับเป็นก้าวที่พัฒนาขององค์กรเป็นอย่างมาก
ที่ไม่ต้องเสียเวลาแปลงข้อมูลเอกสารโดยตนเอง ซึ่งเป็นทั้งการประหยัดแรงงาน และ
เวลา ที่สำคัญยังได้ข้อมูลที่แม่นยำด้วย
จึงสามารถมองไปถึงอนาคตได้ว่าเทคโนโลยีกับองค์กรจะมีความสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้นอย่างแยกไม่ออก
องค์กรต้องพึ่งพิงเทคโนโลยีมากขึ้น
แต่ในทางกลับกันถ้าเทคโนโลยียังมีการพัฒนาไม่หยุดหย่อน ประชากรพนักงานก็ต้องว่างงานมากขึ้น
เพราะอาจไม่จำเป็นต้องพึ่งกำลังคนต่อไป
ซึ่งส่วนนี้ก็อาจเป็นอุปสรรคในการนำเทคโนโลยีเข้ามาในองค์กรเช่นกัน
แต่ในทางกลับกันอีกในอนาคตพนักงานอาจไม่ต้องมาทำงานถึงบริษัท
แค่นั่งเปิดเครือข่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่บ้านด้วยคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวก็อาจเป็นสิ่งสะดวกในการไม่ต้องเดินทาง
ซึ่งเป็นการเอาร์ซอท งานออกไปจากบริษัทเพื่อความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ในอนาคตอาจจะได้เห็นการพัฒนาขององค์กรภาครัฐไปสู่ความเป็นยุคไฮเทคมากยิ่งขึ้นและในเทคโนโลยีด้านต่างๆ
ที่นอกเหนือจากในองค์กรแล้ว เทคโนโลยีที่ใกล้ตัวเราเช่นหน้าจอการแสดงผล
ที่เราเคยพบเจอในแบบlcdบางๆ
แต่มันได้มีการพัฒนามาสู่หน้าจอแบบม้วนพับได้ หรือโอแอลอีดี
ซึ่งในอนาคตข้างหน้าเราอาจได้จำเป็นต้องใช้มัน เราเห็นการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก
เพราะในสัปดาห์ที่แล้วทางเราก็ได้เพิ่งนำเสนอจอlcdที่เป็นทีวีรุ่นใหม่
แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียวก็ได้เห็นพัฒนาการที่จะเกิดเป็นแบบม้วนพับได้
พกพาสะดวกสบายอย่างโอแอลอีดี จึงเป็นไปได้ว่า
ในอนาคตคงน่าทึ่งกว่านี้อาจจะเป็นหน้าจอล่องหนไปเลยก็ได้
ในเมื่อการพัฒนาในสิ่งที่เป็นhardware ได้พัฒนาไปไม่มีที่สิ้นสุด
การพัฒนาsoft ware ก็ได้พัฒนาไปเรื่อยๆเช่นกัน
เพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น ดังเช่นการพัฒนาของกูเกิ้ล เกียส
ที่จะมีการพัฒนาระบบเป็นแบบoffline ขึ้น
ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันต้องการที่จะให้เข้าถึงประชาขนได้ง่ายยิ่งขึ้น
และเป็นธุรกิจสำคัญที่ต้องมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความนิยมใช้งานง่ายสะดวกสบายต่อประชาชนทุกภาคส่วนในอนาคตเราจึงอาจได้เห็นสิ่งที่เรียกว่ากูเกิ้ล
เกียสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะมันสามารถทำให้เราสืบค้นข้อมูลต่างๆได้ง่ายรวดเร็วยิ่งขึ้นไป
และอาจจะเห็นการพัฒนาซอฟแวร์ต่างๆขึ้นมาอย่างต่อเนื่องด้วย และที่สำคัญพวกhardware
ก็จำเป็นต้องมีการพัฒนาเพื่อรองรับsoft wareที่จะเกิดขึ้นด้วย
ทุกส่วนจึงย่อมมีความสัมพันธ์กัน
คลื่นลูกใหม่เทคโนโลยีจอแสดงผล
อีกไม่นาน
เทคโนโลยีจอแสดงผลอาจเปลี่ยนรูปโฉมไปอีกขั้นโดยมีการพัฒนาให้มีขนาดบางลง
ถึงขนาดว่าสามารถม้วนพับเก็บไว้ได้
ขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงและมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นมาทดแทน
เทคโนโลยีจอแสดงผลแบบที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่างจอแสดงผลแอลซีดีที่ยังมี
ข้อเสียตรงที่ใช้พลังงานมาก เทคโนโลยีที่จะเข้ามาทดแทนแอลซีดีในวันข้างหน้า
ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์แสดงผลฟิล์มบางอินทรีย์เปล่งแสง หรือ โอแอลอีดี (OLED:
Organic light-emitting diode) และเทคโนโลยีที่เรียกว่าไบ-สเตเบิล
ซึ่งเแม้แต่ในปัจจุบันก็มีออกมาให้เห็นบ้างแล้วทั้งในเครื่องเล่นเกม
เครื่องเล่นสื่อดิจิตอลเพื่อความบันเทิง เครื่องเล่นเพลงดิจิตอล
และโทรศัพท์มือถืออัจฉริยะหรือสมาร์ทโฟน
ข้อดีของจอแสดงผลแบบโอแอลอีดีคือ
ใช้พลังงานน้อยกว่าจอแบบแอลซีดีในขนาดเท่าๆ กันสูงถึง 40%
ทั้งยังบางกว่าเป็นเท่าตัว เนื่องจากไม่ต้องอาศัยการส่องแสงออกมาจากหลังภาพ
ทั้งยังให้ภาพที่คมชัดกว่า ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ทดลองใช้เทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว เช่น
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาขนาดเล็กอย่างเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลของซัมซุง
อิเล็กทรอนิกส์ และไรน์คอม รวมถึงโทรศัพท์มือถือรุ่นบางจากเคียว
เซร่า นอกจากนี้ทางโซนี่
คอร์ปอเรชั่นเองยังมีแผนจะทำตลาดจอทีวีขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยีโอแอลอีดี
ภายในปีนี้ด้วย
แม้ในวงการสื่อสารไร้สายเทคโนโลยีโอแอลอีดีจะยังเพิ่งเริ่มแต่ในการพัฒนาจอ
แสดงผลรุ่นดังกล่าวเพื่อทำตลาดมีปรากฏให้เห็นบ้างในกลุ่มผู้ผลิตจอแสดงผล แบบแอลซีดี
ทั้งซัมซุง เอสดีไอ และโซนี่ จากการประเมินของบริษัทวิจัยด้านการตลาดไอซัพพลาย
ตลาดสำหรับจอแสดงผลแบบโอแอลอีดี
และแอลซีดีที่ใช้พลังงานน้อยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วโดยคาดว่าจนถึง ปีพ.ศ.
2555 อาจมียอดขายมากถึง 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่
27% เทียบกับยอดขายในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงานข่าวแจ้งว่า
นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถอ่านใจมนุษย์ได้
โดยวิเคราะห์จากการแสดงสีหน้า และสามารถแปลความหมายของความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้นโครงการวิจัยดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือของนักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
ประเทศอังกฤษ และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาจูเซท ประเทศสหรัฐ โดยศาสตราจารย์ปีเตอร์
โรบินสันจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ในประเทศอังกฤษกล่าวว่า “ระบบดังกล่าวมีความสามารถในการแยกแยะความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจของมนุษย์ขณะนั้นได้
เพียงแค่หันวิดีโอไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง
(ระบบคอมพิวเตอร์ก็สามารถรับทราบถึงอารมณ์ความรู้สึกขณะนั้นของคนนั้นแล้ว)”
นักพัฒนายังเชื่อว่า
เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในวงการโฆษณา โดยบริษัทต่างๆ สามารถใช้เทคโนโลยีนี้
เพื่อแปลความรู้สึกนึกคิด และอารมณ์ของผู้บริโภค
เพื่อปรับโฆษณาของผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการผู้บริโภค
“ลองนึกภาพคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่สามารถเลือกใช้อารมณ์ในการนำเสนอที่เหมาะสม
และพยายามจะขายบางสิ่งบางอย่างกับคุณ ซึ่งในอนาคต โทรศัพท์มือถือ รถยนต์
ตลอดจนเว็บไซต์สามารถอ่านใจ และตอบสนองอารมณ์ และความรู้สึกของผู้บริโภคได้”
ศาสตราจารย์ โรบินสัน กล่าว
นอกจากนี้
นักวิทยาศาสตร์ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในการเรียนการสอนผ่านออนไลน์
โดยเมื่อนำไปใช้กับเว็บแคม ระบบอีเลิร์นนิ่งจะตัดสินใจได้ว่า
ผู้เรียนมีความเข้าใจในบทเรียน หรือไม่ได้อีกด้วย
เทคโนโลยีดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการวิจัย เพื่อนำไปใช้ในรถยนต์
ซึ่งจะทำให้มันสามารถตัดสินใจได้ว่า ผู้ขับมีความระมัดระวัง
และตื่นตัวอยู่ตลอดในระหว่างการขับขี่ หรือไม่? โดยคาดว่าจะออกมาให้ทั่วโลกยลโฉมภายในอีก
5 ปีข้างหน้า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น